งานตีเส้นจราจรแบบไหนที่เรียกว่า “เครื่องหมายเตือน คงไม่มีเส้นทางไหนราบรื่นตลอดสาย ไม่งั้นคงไม่ต้องทำเครื่องหมายเตือนล่วงหน้าว่าต่อไปคุณจะต้องพบเจออะไร และผู้ใช้รถที่ไม่ประมาทก็จะต้องคอยสังเกตเครื่องหมายจราจรบนผิวทางให้ดี ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องสุ่มเสี่ยงกับวินาทีชีวิตให้เสียใจภายหลัง ตัวอย่างง่าย ๆ คือ จุดที่ถนนตัดกับทางรถไฟ บนถนนจะมีเส้นกากบาทสีขาวและมีตัวอักษร R ปรากฏทั้งด้านซ้ายและขวา เพื่อเตือนว่าชะลอความเร็วได้แล้ว เพราะอาจจะไปจ๊ะเอ๋กับขบวนรถไฟเข้าก็ได้
ไปดูการตีเส้นจราจรแบบไฟลท์บังคับกันดีกว่า สัญลักษณ์สำคัญบนผิวถนนที่คนใช้รถต้องรู้และปฏิบัติตามด้วยก็คือ เส้นสีเหลืองแบ่งช่องทางรถ ซึ่งคุณจะเห็นว่ามีทั้งเส้นประ และเส้นทึบ ความหมายของเส้นประสีเหลืองก็คือ เป็นการแบ่งช่องให้รถแล่นสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องขับทางฝั่งซ้ายของเส้นประนั้น ยกเว้นเวลาแซงหรือเลี้ยวส่วนเส้นทึบสีเหลือง ไม่ว่าเส้นเดียวหรือเส้นคู่ หมายความว่า ห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนก็คือคุณเสี่ยงอันตราย และเตรียมตัวรับใบสั่งได้เลย